มหัศจรรย์ของการดื่มน้ำ 5 แก้วในยามเช้า
การดื่มน้ำ 5 แก้วในยามเช้า มีจุดเริ่มต้นมาจากประเทศจีน โดยบอกว่าการดื่มน้ำ 5 แก้วในยามเช้า สามารถบำบัดโรคได้ และยังทำให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์เข็งแรง แต่ไม่ใช่การดื่มทั้ง 5 แก้วไม่ควรดื่มรวดเร็วในเวลาเดียวกัน วันนี้บทความนี้ขอนำเสนอการดื่มน้ำ 5 แก้วมีประโยชน์อย่างไร ที่สำคัญมีวิธีการดื่มน้ำ 5 แก้วที่ถูกต้อง
- วิธีการดื่มน้ำ 5 แก้วในยามเช้าที่ถูกต้อง
2. เมื่อตื่นนอนขึ้นมาใหม่ ๆ ยังไม่ต้องล้างหน้าแปรงฟัน ดื่มน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว ด้วยวิธีการดังนี้
- การดื่มน้ำ 5 แก้วในตอนเช้าเพื่อเป็นการล้างลำไส้เพื่อช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างสมดุล แต่ไม่ใช่ดื่มทันทีรวดเดียว 5 แก้ว เริ่มแรกให้หัดดื่มน้ำตอนเช้าเพียง 2 แก้วก่อน จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มอีก 3 แก้วจนครบ 5 แก้วในวันต่อ ๆ ไป
- ขั้นแรกคุณอาจจะดื่มก่อน 1 – 2 แก้วและพัก 10 – 15 นาที แล้วค่อยดื่มแก้วต่อไปเพื่อรอให้น้ำออกจากกระเพาะเข้าสู่ลำไส้ก่อน ทำแบบนี้จนครบ 5 แก้ว เนื่องจากการกินแล้วพักเช่นนี้จะทำให้กินได้มากขึ้น
- ในระหว่างที่คุณดื่มน้ำจนครบ 5 แก้วบางท่านอาจจะยังไม่รู้สึกปวดท้องอยากขับถ่าย ให้ลุกเดินสัก 5 – 10 นาที แล้วค่อยไปนั่งห้องน้ำ หากยังไม่ขับถ่ายออกมาให้นวดท้องช่วยอีกแรง เพื่อกระตุ้นการถ่ายให้ออกมาง่ายขึ้น คุณควรนวดท้องโดยใช้อุ้งมือคลึงวน ๆ ไปมาให้ทั่วบริเวณท้องลงไปถึงท้องน้อย หรืออาจจะใช้ปลายนิ้วทั้ง 4 กดลงไปรอบ ๆ ท้องน้อยก็ได้ เมื่อกดหรือนวดไปสักพักแล้วจะรู้สึกปวดเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
- สำหรับผู้ที่เริ่มการดื่มน้ำ 5 แก้วเพื่อช่วยในการล้างลำไส้มักจะมีอุจจาระเก่าสะสมอยู่ในลำไส้เป็นคราบหนาติดอยู่กับผนังลำไส้ทำให้การดื่มน้ำครั้งแรกอาจจะไม่ง่ายนัก
- เคล็ดลับช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้นในยามเช้า
- ข้อควรระวังเกี่ยวกับการดื่มน้ำ 5 แก้วในยามเช้า
ควรดื่มน้ำผลไม้ก่อนนอน เพราะจะช่วยให้การดื่มน้ำ 5 แก้วในตอนเข้าได้ผลดียิ่งขึ้น
น้ำสำหรับใช้ดื่ม 5 แก้วควรเป็นน้ำธรรมดา ไม่ใช้น้ำเย็นหรือน้ำใส่น้ำแข็ง และไม่ควรใช้น้ำอุ่นหรือน้ำอุ่นจัด เพราะจะทำให้อาเจียน เวลาที่น้ำ 5 แก้วออกฤทธิ์จะค่อนข้างรุนแรงจะรู้สึกปวดเบ่งเหมือนท้องเสีย เพราะจะถ่ายพุ่งออกมาอย่างแรง จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการริดสีดวงทวารเพราะจะดันเอาหัวริดสีดวงทวารออกมาด้วยทำให้เกิดการอักเสบได้
ผู้ที่มีโรคปรำจำตัวต่าง ๆ เช่น โรคไต โรคหัวใจ หรือโรคความดันโลหิตสูง จึงไม่แนะนำให้ทำเพราะอาจเกิดอันตรายได้ หรือควรปรึกษาแพทย์จะดีที่สุดเพื่อวินิจฉัยถึงเรื่องความปลอดภัย อ่านบทความที่น่าสนใจ ชีวิตสุขสันต์
