
การหายใจให้ได้ประโยชน์
การหายใจนั้นมีผลต่อสุขภาพของเราเป็นอย่างมาก จะเป็นการสูดเอาออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงร่างกายแล้ว ยังมีผลต่อการควบคุมอารมณ์และกลไกของร่างกายส่วนอื่น ๆ ด้วย ในทางวิทยาศาสตร์หรือที่เราเอามาใช้ในทางการแพทย์ มักจะเน้นไปที่การหายใจเพื่อรับออกซิเจนหรืออากาศให้เข้าสู่ปอดได้อย่างเต็มที่ เพราะผู้ป่วยมักจะมีปัญหาทางเดินหายใจ ทำให้ประสิทธิภาพการหายใจด้อยลงไปกว่าปกติ จึงต้องเน้นให้กลับคืนสู่สภาพปกติเช่นเดิม
- การหายใจมีแบบไหนบ้างดังนี้

หายใจด้วยทรวงอกส่วนบน
แบบนี้ปอดส่วนบนจะมีการขยายตัวมากกว่าปอดส่วนอื่น ๆ
หายใจด้วยชายโครง
แบบนี้ปอดส่วนกลางจะได้รับการขยายตัวมาก การหายใจแบบนี้เมื่อหายใจเข้าบริเวณชายโครงจะบานขยายออก เมื่อหายใจออกชายโครงจะหุบแฟบเข้า ถือว่าเป็นการหายใจที่ดีแบบหนึ่ง เพราะอากาศสามารถเข้าปอดได้มาก ซึ่งจะได้ให้มีการแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ดี
หายใจด้วยช่องท้อง
แบบนี้จะใช้กล้ามเนื้อกะบังลมช่วยในการหายใจ เมื่อหายใจเข้าหน้าท้องจะโป่งพองออก เนื่องจากกะบังลมหดตัวกดดันอวัยวะภายในช่องท้องให้ลดต่ำลง และเมื่อหายใจออกหน้าท้องจะแฟบเข้า เพราะกะบังลมหย่อนตัว อวัยวะภายในช่องท้องจะดันกลับขึ้นมา เป็นการเพิ่มความกดดันให้กับปอด ทำให้ปอดไล่อากาศออกมา การทำเช่นนี้ทำให้ร่างกายได้รับอากาศมากที่สุด ในผู้ป่วยทั้งหลายเราจึงสอนให้หายใจแบบนี้มากกว่าแบบอื่น ๆ ยกเว้นว่าจะมีการผ่าตัดหน้าท้องที่ทำให้ไม่สามารถหายใจด้วยช่องท้องได้
การหายใจในทางวิชาโยคะหรือการฝึกวิชาลมปราณ
จะมีการหายใจอยู่หลายวิธี โดยแบบโยคะนี้จะเน้นไปที่การควบคุมลมหายใจ เพื่อควบคุมอารมณ์และจิตใจ ไม่ได้เน้นที่ร่างกายเท่านั้น การทำแบบนี้มักจะใช้หายใจด้วยช่องท้องเป็นหลัก หรือใช้ทั้งสามแบบจากด้านบนมาผสมผสานหายใจ 1 ครั้ง เช่น เมื่อเริ่มหายใจเข้าจะใช้ช่องท้องก่อนแล้วค่อยไล่ขึ้นมาที่ชายโครงจนมาสุดที่ทรวงอกช่วงบน แล้วจึงหายใจออกจนสุดลมหายใจ เป็นการไล่คาร์บอนไดออกไซด์ออกให้หมด เมื่อหายใจเข้าก็จะสูดออกซิเจนเข้าให้มากที่สุดเช่นกัน เชื่อกันว่าเป็นวิธีหายใจที่ดีที่สุด เนื่องจากปอดทุกส่วนมีการทำงานขยายตัวและหดตัวครบถ้วนด้วยจังหวะที่เหมาะสม
รู้ไหมว่าวิธีการหายใจยังมีหลายแบบ เช่น หายใจออกนานเป็น 2 เท่าของหายใจเข้า, มีการกลั้นหายใจระหว่างช่วงหายใจเข้าและออก, หายใจด้วยรูจมูกทีละข้าง และหายใจด้วยรูจมูกทั้งสองข้าง, หายใจแบบลึกและช้า เช่น นาทีละ 4 ครั้ง เป็นต้น
- ข้อควรระวังของการหายใจ

หายใจด้วยช่องท้องเป็นพื้นฐานการหายใจทั้งในคนปกติและผู้ป่วย เป็นวิธีหายใจที่ถือได้ว่าถูกต้อง ได้ผลดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ น่าที่เราจะได้สนใจศึกษาและฝึกฝนกันให้มากขึ้น เพื่อจะได้รับผลดี แต่ก็มีข้อควรระวังอยู่บ้าง คือถ้ามีการหายใจลึก ๆ แบบนี้ติดต่อกันนานเกินไปในแต่ละครั้งคาร์บอนไดออกไซด์จะถูกขับออกไปมากจนทำให้สมดุลของร่างกายเสียไป กลไกการหายใจจะเกิดความผิดปกติ เกิดอาการหน้ามืด วิงเวียนหมดสติไปได้เหมือนกัน บทความจาก เกมส์บันเทิง
