
วิตามินมหัศจรรย์ชะลอความแก่
รู้ไหมว่าวิตามินมีความสำคัญมากแค่ไหน เพราะสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ รอบตัวไม่ว่าจะเป็น แสงแดด สายลม มลพิษ ความเครียด รวมถึงอายุที่เพิ่มขึ้น ล้วนส่งผลเสียต่อสภาพผิวของเราแน่นอนที่สุด เป็นต้นเหตุของความร่วงโรยและความร่วงโรยแห่งวัย
มนุษย์ผู้ชาญฉลาดมีการค้นพบสารมหัศจรรย์ต่าง ๆ ที่มีคุณสมบัติช่วยชะลอความแก่ได้ สำหรับบางคนที่ใช้ประโยชน์จากสารมหัศจรรย์ในทางที่ถูกและเหมาะสม ทำให้ทุกวันนี้ดูอ่อนกว่าวัย มีสุขภาพดี สารมหัศจรรย์มีดังต่อไปนี้
- วิตามินแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
- ประเภทที่ละลายในน้ำ
จะค่อนข้างอ่อนแอ ถูกทำลายได้ง่ายจากความร้อน หรือสูญหายไปในขั้นตอนการปรุงอาหาร และจะอยู่ในร่างกายเราได้ไม่นานคือ ถ้าร่างกายไม่ดูดซึมแล้วก็จะถูกขับออกมาทางเหงื่อและปัสสาวะ ได้แก่ วิตามินบี, ซี , เอช หรือ ไบโอทิน นั้นเอง
- ประเภทที่ละลายในไขมัน
จะค่อนข้างแข็งแรงทนต่อความร้อนได้มากกว่า สามารถประคองตัวอยู่ในร่างกายเราได้นาน หรือจะเรียกว่าเป็นการถูกสะสมก็ได้ ซึ่งลักษณะแบบนี้ถือว่าไม่ค่อยดีนัก จึงมีคำแนะนำว่าไม่ควรกินประเภทนี้มากเกินไป เพราะวันหนึ่งส่วนที่ถูกเก็บสะสมไว้มาก ๆ พอนานวันเข้าอาจกลายเป็นพิษต่อร่างกายได้ ได่แก่ วิตามินเอ, ดี, อี, เค, และคิว หรือโคเอนไซม์คิวเทน
วิตามินมีความโดดเด่นในเรื่องของความสวยความงามเพื่อการชะลอความแก่ ได้แก่ วิตามินซี, อี , บี 3, เบต้าแคโรทีน และโคเอนไซม์คิวเทน
- คุณสมบัติของวิตามินมหัศจรรย์ชะลอความแก่

- วิตามินซี ( Vitamin C )
สารอาหารยอดฮิตที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของผิวพรรณ เพราะได้รับการยอมรับว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเลิศ มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว ทำให้เซลล์ผิวแข็งแรงมีความกระชับยืดหยุ่น ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ชะลอความแก่แห่งวัย ช่วยสมานแผลทำให้แผลหายเร็วขึ้น และช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส
- วิตามินอี ( Vitamin E)
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพ หรือมีคุณสมบัติดีเลิศในเรื่องของผิวพรรณคือ ช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลาย ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ชะลอความแก่แห่งวัย ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวมีความกระชับยืดหยุ่น ช่วยสมานแผลทำให้แผลหายเร็วขึ้น ช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ ช่วยทำให้ผิวสดใส เนียนนุ่ม และช่วยลดการอักเสบของผิว
- วิตามินบี 3 (Vitamin B 3) หรือไนอะซิน (Niacin)
สามารถทนต่อความร้อนได้ หากร่างกายเราได้รับหากเรารับเยอะเกินไปก็ไม่เป็นอันตรายอะไร เพราะมันจะถูกขับออกมาพร้อมกับปัสสาวะไม่ต่างอะไรกับวิตามินซี ดังนั้นควรกินให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายต่อวันก็พอ และควรกินอย่างสม่ำเสมอทุกวัน
มีคุณสมบัติช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ช่วยลดความดันเลือด ช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยกำจัดสารพิษ ช่วยควบคุมการทำงานของระบบประสาท และช่วยเสริมสร้างระบบสืบพันธุ์ให้เป็นไปได้ด้วยดี เพื่อสุขภาพที่ดี
คุณสมบัติที่ดีต่อผิวพรรณคือ ช่วยเสริมสร้าง คอลลาเจน ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ชะลอความแก่ ช่วยผลัดเซลล์ผิว และช่วยยับยั้งการสร้างเซลล์เม็ดสี
- เบต้าแคโรทีน (Beta Carotene) หรือโปรวิตามินเอ (Provitamin A)
เป็นสารต้นกำเนิดของวิตามินเอ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เยี่ยมยอด มีคุณสมบัติช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยเสริมสร้างกระดูก ผม และฟันให้แข็งแรง ช่วยกำจัดสารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย ช่วยบำรุงสายตา และช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ดวงตา
มีความเด่นในเรื่องของผิวพรรณ หรือเป็นสารที่ช่วยชะลอความแก่คือ จะคอยช่วยปกป้องไม่ให้เซลล์ผิวถูกทำลาย ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยต่อต้านการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้ดีขึ้น และช่วยลดการอักเสบของสิว
- โคเอนไซม์คิวเทน (Co-enzyme Q10) หรือวิตามินคิว
มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยสร้างพลังงานให้กับเซลล์ในร่างกาย ช่วยป้องกันไม่ให้ผนังเซลล์ถูกทำลาย ช่วยยับยั้งการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย อีกทั้งยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับสมอง หัวใจและหลอดเลือดด้วย มีความโดดเด่นในเรื่องของผิวพรรณคือ ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวของเราคงความอ่อนเยาว์ไว้เนิ่นนาน และชะลอความแก่
“วิตามินชะลอความแก่ได้ เพราะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ยังเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย ถึงแม้ว่าร่างกายจะต้องการในปริมาณไม่มากเท่ากับสารอาหารประเภทโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต แต่ก็ขาดไม่ได้เด็ดขาด” บทความกจาก ล็อตโต้สด
