
เย็นตาโฟประกอบไปด้วย เส้น ลูกชิ้นปลา เต้าหู้ทอด ป่าท่องโก๋ชิ้นเล็ก ปลาหมึกกรอบ เกี๊ยวปลา เลือดหมูก้อน ผักที่นิยมใช้คือผักบุ้ง อาจจะใส่เกี้ยวทอดกรอบ หรือหนังปลาทอดกรอบ เป็นอาหารประเภทเดียวกันกับก๋วยเตี๋ยว วันนี้ขอเสนอบทความเกี่ยวกับโทษ เพื่อเป็นกรณีศึกษา และประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค
ส่วนประกอบต่าง ๆ ในเย็นตาโฟ
เส้น
การเลือกกินวุ้นเส้นเย็นตาโฟ เป็นวิธีการเลือกเส้นที่ดีต่อสุขภาพที่สุด

ซอสเย็นตาโฟกับสารพิษ
ซอสสีแดงเป็นเอกลักษณ์ของเย็นตาโฟ ที่เราคุ้นเคยกันดี เพราะถ้าไม่แดงก็จะไม่ใช่เย็นตาโฟ แต่ความจริงแล้วสีแดงของเย็นตาโฟ ตั้งแต่ดั้งเดิมก็คือ สีแดงที่เกิดจากสีของเต้าหู้ยี้ ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญที่ทำให้เย็นตาโฟ มีกลิ่นและรสที่เป็นเอกลักษณ์ ที่แตกต่างจากก๋วยเตี๋ยวทั่วไป
ในปัจจุบันนี้สีของเย็นตาโฟ เป็นสีผสมอาหารที่ได้จากการสังเคราะห์ หากใช้ในปริมาณที่มากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค เนื่องจากสีสังเคราะห์ส่วนใหญ่ จะมีส่วนผสมของโลหะหนักเช่น ตะกั่ว สารหนู โครเมียม สังกะสี เป็นต้น
อันตรายจากสารหนูคือ เกิดอาการอ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ และโลหิตจาง
อันตรายจากสารตะกั่ว มีพิษต่อระบบประสาท ทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง เกิดอาการผิดปกติของทางเดินอาหาร คลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีอาการทางระบบประสาทได้
ในการเลือกอาหารรับประทาน ผู้บริโภคขอให้ระมัดระวัง ไม่ควรเห็นแก่สีสดสวย ฉูดฉาด ซึ่งแฝงไว้ด้วยอันตรายจากสี แต่ควรเลือกอาหารที่มีสีธรรมชาติแทน ดังนั้นผู้ที่ชอบรับประทานเย็นตาโฟ ควรเลือกร้านที่ใช้ซอสที่ทำมาจากเต้าหู้ยี้ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพจะดีกว่า

ปลาหมึกกรอบกับฟอร์มาลีน
ปลาหมึกกรอบที่อยู่ในเย็นตาโฟก็คือ ปลาหมึกแห้งที่นำมาแช่น้ำด่าง เพื่อให้มันพองตัวขึ้นมา ซึ่งน้ำด่างนี้ในสมัยโบราณจะใช้น้ำแช่ขี้เถ้า แต่ในปัจจุบันการทำปลาหมึกกรอบ ได้เปลี่ยนแปลงกรรมวิธี โดยใช้น้ำโซดาไฟในการแช่แทนน้ำด่าง กระบวนการทำจะเริ่มจากการเอาปลาหมึกแห้ง มาแชน้ำด่าง 3 – 7 วัน หลังจากนั้นก็นำไปแช่น้ำเปล่าอีก 7 วันจึงนำมาทำอาหารได้
ปลาหมึกกรอบโดยส่วนใหญ่ มีการปนเปื้อนฟอร์มาลีน เพราะระหว่างช่วงการทำปลาหมึกกรอบนั้น เพื่อให้ยังคงความสด เพื่อไม่ให้ยุ่งยากต้องเสียเวลาในการเปลี่ยนน้ำ ก็อาจใช้น้ำผสมฟอร์มาลีน วิธีดูปลาหมึกว่าแซ่ฟอร์มาลีนหรือไม่ ให้ดูที่ผิวปลาหมึกจะต้องใสแวว เนื้อแน่นและไม่แข็ง ถ้าเป็นปลาหมึกเก่าเนื้อจะเละ ตัวแบน ในถาดใส่ปลาหมึกน้ำ จะต้องไม่มีฟองเพราะ ปลาหมึกที่แซ่ฟอร์มาลีนเมื่อเอามาล้างน้ำจะมีฟอง
อาหารบางประเภท โดยเฉพาะอาหารทะเลและผักสด นำมาแช่ในฟอร์มาลีน จะทำให้เก็บไว้ได้นานหรือเน่าเสียได้ยากยิ่งขึ้น หากรับประทานอาหารที่มีฟอร์มาลีนปนเปื้อน ในปริมาณมากจะทำให้เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง อาเจียน อุจจาระร่วง หมดสติและเสียชีวิต แต่หากได้รับฟอร์มาลีนในปริมาณน้อยจะทำให้การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ผิดปกติไป โดยเฉพาะการทำงานของไต ตับ และหัวใจ บทความจาก หวยสดพลัส หวยออนไลน์
